ความแตกต่างระหว่างการตลาดแบบเต็มรูปแบบและการโฆษณาแบบดั้งเดิม คือเรื่องที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการสื่อสารที่รวดเร็ว การตลาดแบบเต็มรูปแบบกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม
การตลาดแบบเต็มรูปแบบ หรือ Full Marketing คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยใช้หลากหลายช่องทางในการสื่อสาร เช่น เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, เว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น มีการใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์
ขณะที่การโฆษณาแบบดั้งเดิม หรือ Traditional Advertising มักจะเน้นไปที่การกระจายข้อมูลผ่านช่องทางที่จำกัด เช่น สื่อโทรทัศน์, สื่อพิมพ์ และสื่อออดิโอ การโฆษณาแบบดั้งเดิมไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแต่เน้นในการทำให้คนเห็นแบรนด์และผลิตภัณฑ์
จากกรณีศึกษาของบริษัทใหญ่ๆ ในประเทศไทย การตลาดแบบเต็มรูปแบบได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดขายและสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม
สรุปแล้ว การตลาดแบบเต็มรูปแบบและการโฆษณาแบบดั้งเดิม มีความแตกต่างอย่างชัดเจน การเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของแบรนด์แต่ละแห่ง